วันอาทิตย์, สิงหาคม 26, 2550

Text Setting

อ่านไฟล์ note pad ในไฟล์นี้ จะเป็นตัวบอกค่า setting ต่างๆ ว่าต้องวัดค่า อะไรบ้าง และ ค่า settingต่าง ว่าเท่าไร แล้วส่งค่าให้เครื่อง HIOKI LCR Hitester ไปวัดค่าต่างๆตามที่เราได้ตั้งไว้ในไฟล์ Text นี้ การที่จะค่าค่าจากtext ไฟล์ไปให้เครื่องนั้น เราจึงจำเป็นต้องทำการแยกข้อมูลเป็นส่วนๆ และแปลงเป็น array ด้วย เพื่อให้เครื่องสามารถรับค่าได้





การอ่านค่า setting เพื่อส่งค่าต่างๆเช่น ค่า parameter ที่ต้องการวัด ความถี่ที่ต้อง เป็นต้น โดยการเขียน text จะต้องมีการกำหนดลำดับของการเขียนดังนี้ (ต้องใช้Tab เป็นตัวแบ่งแยกข้อมูล)


1. parameter1
2. parameter2
3. parameter3
4. parameter4
5. mode
6. value
7. speed
8. delay
9. num
10. frequen1
11. frequency2
12. frequency3
13. average
14. open
15. short
16. Z Hi-Lo
17. phaseHi-Lo
18. Ls Hi-Lo
19. Q Hi-Lo



Blog Diagram
  1. ส่วนนี้เป็นส่วนที่ใช้เปิดไฟล์ ใช้ตัว File Dialog ต่อเข้ากับต่อ open/create/replace File และต่อเข้ากับตัว Read from text file ตัวนี้จะต่อเข้า Data string เพื่อที่จะแสดงเอาพุตออกมาให้เห็นก่อนว่าในไฟล์text นี้เขียนอะไรไว้บ้าง
  2. นำสายที่เอาพุตที่ต่อออกมาจาก Read from text file ต่อเข้ากับ Spreadsheet String To Array เพื่อที่จะแปลง จาก text(เป็น Spreadsheet โดยใช้ Tab เป็นตัวแบ่ง column) เป็น array และต่อเข้ากับตัว Delete From Array เพื่อที่จะลบ พารามิเตอร์,ตัวsettingในแถวแรก คือจะเก็บเฉพาะค่าที่เป็นตัวเลข(ค่าsetting)และตัวพารามิเตอร์ที่ใช้ในการวัดเท่านั้นไว้ และให้แสดงออกมาในรูปแบบarray ก่อนว่าหลังจากที่ column แรกแล้วเหลืออะไรบ้าง
  3. เมื่อเราตัด columnแรกทิ้ง และแปลงในรูปแบบ array แล้วนั้น ขั้นต่อไปเราต้องทำการแยกข้อมูลที่เป็นชุดๆ เพื่อที่จะได้ง่ายต่อการที่เครื่องมันจะอ่านค่า โดยใช้ตัว sub array เป็นตัวแยก เช่น ข้อมูลชุด level นั้น
    ตัวsub array จะต่อขาดังนี้คือ index ขาแรกตั้งเป็น 4,length ขาสองตั้งเป็น 2(เริ่มที่row ที่ 4 จัดเก็บมา2 ค่าตามแนวcol), index ขาสามตั้งเป็น 0, length ขาสี่เป็น 1 (เริ่มที่col ที่ 0 จัดเก็บมา 1 ค่าตามแนวrow )

Front Panal



Save format Excel

Front Panalในการที่จะเซฟต่อเนื่องได้นั้นในไฟล์เดิม เราต้องใส่ while loop เข้าไป เพื่อให้ทำงานวนกันซ้ำหลายๆรอบ และใน while loopนั้น จะซ้อนด้วย case structure เข้าไปอีกที ในส่วนของ case structure นี้ คือจะทำงาน จะเข้า case true ทำงานในส่วนของการเซฟค่าที่รับจากเครื่อง HIOKI LCR Hitester โดยผ่านการกดปุ่ม OK (ซึ่งในการทำงานจริงจะเป็นปุ่ม Musure เพื่อกดวัดหลายๆครั้ง ) และถ้าเป็น case false ก็จะไม่ทำอะไร และจะสิ้นสุดการทำงานออกจาก while loop โดยการกดปุ่ม cancel
  1. ใช้ตัว File Dialog แล้วที่ขาของ default nameให้คลิกขวาเลือก create constant แล้วพิมพ์ชื่อไฟล์ที่ต้องการไว้ หรือเราไม่ทำส่วนนี้ก็ได้ เมื่อตอนกดรันมันก็จะขึ้นถามชื่อไฟล์ ขา path ต่อเข้ากับขาpathของตัว open/create/replace File และที่ตัวนี้ ตั้ง constant ที่ขาต่างตามรูป

  2. ในส่วนนี้การทำงานจะคล้ายกับของที่อัพครั้งที่แล้ว แต่เปลี่ยนบางส่วน นำเอาสายpath ที่ออกจากขา refnum ของตัว open/create/replace File มาต่อเข้ากับขา refnum ของตัว set file position และที่ขาของ from ให้คลิกขวาเลือก create constant แล้วเลือกเป็น end เพื่อแสดงว่า การเซฟในครั้งต่อๆไป เป็นการเซฟต่อท้ายจากไฟล์คราวก่อน และลากสายpathต่อตามรูป ในตัวของ format into file ในขาของ input เข้านั้น เป็นการแสดงส่วนของ Header ที่ความถี่ที่ 1,2 และ3 โดยมีการทำงานคือ รับข้อมูลความถี่ที่ผู้ใช้ป้อนเข้ามา ต่อเข้ากับตัว Number to Fractional String เพื่อแปลงจาก Number เป็น String และนำมาต่อเข้าขาinput ของตัว Format Into File และใช้ Tab เป็นตัวแบ่ง Column และใช้ End of Line เพื่อขึ้นบรรทัดใหม่ และต่อสายpath ดังรูป เพื่อต่อเข้ากับตัว Format Into Fileอีกตัวส่วนที่แสดง Header ค่า Z, Phase, Ls, Q และใช้ Tab เป็นตัวแบ่ง Column และใช้ End of Line เพื่อขึ้นบรรทัดใหม่

  3. ตัว Original 2D Array ก็คือตัวoutput ที่รับมาจากเครื่อง HIOKI LCR Hitesterเป็น array 2D มี แถบ Column เป็นค่า Z, Phase, Ls, Q แถว Row เป็น Freq1 Freq2 Freq3 ตาม output ที่ได้รับจากการวัดจากเครื่องมาจริงๆนำตัวนี้มาต่อเข้ากับตัว index araay คลิกขวาเลือก create constant ที่ขาของ index (row) แล้วตั้งเป็น 0,1,2 ตามลำดับดังรูป เพื่อที่เราจะจัดรูป array ใหม่ให้ได้ตรงตาม header ใน excel ที่เราตั้งไว้ และที่ขาของ sub array แต่ละขา นำต่อเข้ากับต่อ Build array 3 แถวตัวหนึ่งก่อน และนำต่อเข้ากับ Build array 1 แถวอีกทีหนึ่ง จะได้เป็น array ในรูปแบบตรงตามที่ต้องการแล้ว
สังเกตุว่า ถ้าเรานำส่วนที่ 2. ไว้ในwhile loop และใน case structure นั้น ก็จะเป็นการเซฟในครั้งต่อไปแบบที่เปลี่ยนความถี่ได้ คือจะเปลี่ยนความถี่ในแต่ครั้งตามต้องการแล้ว OK เมื่อต้องการเซฟ ก็ได้รูปแบบ excel ดังรูปข้างต้น แต่ถ้าเรานำส่วนที่ 2 ออกนอก loop ก็จะเป็นการ fix ความถี่ไว้เลย คือจะไม่สามารถเปลี่ยนความถี่ได้ในครั้งต่อไป




















Wed 22, AUG at IE Co.,Ltd.

วันพุธที่22 ได้เข้าไปที่บริษัท ไฟฟ้าอุตสาหกรรม จำกัด งานโปรเจคครั้งนี้ก็ได้ได้ทำสำเร็จครบตามที่พี่เฉลิมพลสั่งไว้ ตามที่ต้องการเรียบร้อยแล้ว โดยส่วนที่รับผิดชอบมี 2 ส่วนคือ
  1. สามารถวัดค่า Z Phase Q Ls โดยที่ความถี่ต่างสามความถี่แล้วเซฟเป็นฟอร์แมตเอ็กเซล และเซฟต่อเนื่องได้ในไฟล์เดิม
  2. อ่านค่าไฟล์ setting ต่างของเครื่องที่รับมาแล้วแสดงผลออกarray แยกเป็นส่วนๆ เพื่อส่งเข้าเครื่อง HIOKI LCR Hitester ได้

วันอาทิตย์, สิงหาคม 19, 2550

Text file (setting)

งานส่วนที่ต้องทำคือ อ่านไฟล์ note pad ในไฟล์นี้ จะเป็นตัวบอกค่า setting ต่างๆ ว่าต้องวัดค่า อะไรบ้าง และ ค่า average ที่เท่าไร แล้วส่งค่าให้เครื่อง HIOKI LCR Hitester ไปวัดค่าต่างๆตามที่เราได้ตั้งไว้ในไฟล์ Text นี้

ในส่วนนี้ สามารถอ่านค่าจากไฟล์ ได้แล้ว และแสดงออกมาว่าอ่านได้อย่างไรบ้าง แต่ยังไม่สามารถเปลี่ยนไปเป็นoutput ที่ให้เครื่องรับรู้ได้ จึงต้องพัฒนาต่อไป


Text file

ไฟล์ ที่เขียนค่า setting ต่างไว้







Block Diagram
ได้ใช้ตัวRead From File Text ต่อกับเอาพุตที่แสดงออกเป็น Data String ว่าในไฟล์นี้เขียนว่าอย่างไรบ้าง





Front Panelจะแสดงข้อมูล ในส่วนที่ไฟล์นี้เขียนไว้



Output Value ( Z, Phase, Ls, Q ) ( Freq1 Freq2 Freq3 ) save into Excel documents.

ได้พัฒนาโปรแกรมไป สามารถ เซฟเป็นฟอร์แมต Excel ได้แล้ว เซฟ ที่ 3 ความถี่โดยเป็นความถี่ที่ผู้ใช้ป้อนเข้ามา แต่ละความถี่สามารถเซฟค่า Z, Phase, Ls, Q ได้แล้ว

โดยสมมติตัว Output Value ที่รับมาเป็น array 2D มี แถบ Column เป็นค่า Z, Phase, Ls, Q แถว Row เป็น Freq1 Freq2 Freq3 ตาม output ที่ได้รับจากการวัดจากเครื่องมาจริงๆ

การทำงานเซฟไปฟอร์เมตExcel



  1. ส่วนนี้เป็นส่วนที่แสดง Header ความถี่ที่ 1 โดยมีการทำงานคือ รับข้อมูลความถี่ที่ผู้ใช้ป้อนเข้ามา ต่อเข้ากับตัว Number to Fractional String เพื่อแปลงจาก Number เป็น String และนำมาต่อเข้ามาต่อเข้ากับตัว Format Into File และใช้ Tab เป็นตัวแบ่ง Column และใช้ End of Line เพื่อขึ้นบรรทัดใหม่

  2. ส่วนนี้เป็นส่วนที่แสดง Header ค่า Z, Phase, Ls, Q และใช้ Tab เป็นตัวแบ่ง Column และใช้ End of Line เพื่อขึ้นบรรทัดใหม่

  3. ส่วนนี้เป็นส่วนที่แสดง Header ค่า Z, Phase, Ls, Q ที่วัดได้จากเครื่อง HIOKI LCR Hitester โดยการทำงานคือ ตัวOutput 2D Array เป็นการส่งค่ามาทั้งหมดทั้ง สามความถี่ดังรูปข้างต้น ดังนั้นเราจึงต้องแยก Sub Array ออก เพื่อแยกออกที่ละความถี่ โดยตัว Array Subset แยกเอาข้อมูลความถี่ที่ 1 ออก แล้วมาต่อกับ ตัว Array to Spreadsheet String และตัวนี้ต่อกับ Format Into File อีกที่หนึ่ง

ถึงขั้นนี้แล้ว จะเซฟไฟล์ excel ได้ค่า Z, Phase, Ls, Q ที่ความถี่ที่ 1 ความถี่เดียว ดังนั้นแล้วจังต้องต่อแบบนี้สามชุดต่อเรียงกันไปเรื่อย จึงจะเซฟได้สามถี่ที่ต้องการ

หน้าต่าง Excel ที่เซฟออกมาได้

16 AUG 07 at Industrial Electrical.co.,ltd

ในวันพฤหัสบดีที่ 16สิงหาคม ได้เข้าไปที่บริษัท IE คราวนี้ ได้งานโดยสังเขปรวม คือ
  1. เซฟข้อมูล ที่วัดค่า Z, Phase, Ls, Q จากเครื่อง HIOKI LCR Hitester ความถี่ต่างๆสามความถี่ที่ผู้ใช้ป้อนเข้ามา เป็นฟอร์แมต excel
  2. งานอีกส่วนคือ อ่านไฟล์ Text (note pad) ที่ในไฟล์นั้นเขียนค่า setting ไว้ (ค่าที่ต้องการวัด แต่โปรเจคนี้ สมมติให้วัดแต่ค่า Z, Phase, Ls, Q) แล้วส่งให้เครื่อง HIOKI LCR Hitester ไปวัดค่าต่างๆตามที่เราได้ตั้งไว้ในไฟล์ Text นี้

วันเสาร์, สิงหาคม 11, 2550

Test array 2D save into Excel

โปรแกรมนี้ ลองเขียนสมมติข้อมูลชุดหนึ่งที่เป็น array 2D ขึ้นมาเเล้งลงเชฟเป็นฟอร์เเมตเอ็กเซลล์

Font Panal
Blog Diragram
Excel

HIOKI 3522

นี่คือตัวโปรแกรม ที่ติดต่อกะเครื่อง HIOKI3522 ที่สามารถส่งค่า และรับค่า ได้เเล้ว โดยติดต่อผ่านสาย serial port








8,10 AUG 07 at Industrial Electrical.co.,ltd

วันพุธที่ 8 สิงหาคม และวันศุกร์ ที่ 10 สิงหาคม ได้เข้าไปที่บริษัท Industrial Electrical ครั้งนี้มีความคืบหน้าไปมาก สามารถใช้โปรแกรม LabVIEW ติดต่อกะเครื่อง HIOKI 3522 ได้แล้ว ส่งค่า อ่านค่า ผ่านโปรแกรมได้ ทุกค่าแล้ว ขั้นต่อไปได้เขียนโปรแกรมต่อ เพื่อให้สามรถอ่านค่าได้หลายความถี่ โดยความถี่นั้นผู้ใช้จะเป็นคนป้อนให้ ก็อยู่ในระหว่างการเขียนพัฒนาโปรแกรมอยู่ แต่ก็พอสามารถป้อนความถี่ สามค่า ตามแต่ผู้ใช้ กำหนดได้แล้วสามรถวัดค่าได้แล้ว แต่ยังไม่สมบูรณ์เท่าที่ควรจึงต้องพัฒนาต่อไป

ในส่วนของการเซฟเป็นไฟล์ฟอร์เมต Excel นั้น ก็ได้ลอง สมมติข้อมูลชุดที่เป็น array 2D ขึ้น มาแล้วลองเซฟดู ผลปรากฎว่าก็พอได้ แต่ยังไม่สมบูรณเท่าที่ควร มีหัว header ขึ้น แต่ที่ต้องการนั้นคือ ต้องวัดที่ความถี่ต่างๆ และเลือกได้ว่าจะวัดค่าอะไรบ้าง แต่ในลองนำเขียนโปรแกรมที่เขียนขึ้นนั้นแล้วลองติดต่อกะเครื่อง HIOKI 3522 แล้วผลปรากฎว่าก็สามารถเซฟได้ แต่ไม่ดีตรงที่ว่า โปรแกรมที่เขียนขึ้นนี้ไม่สามารถที่จะเลือกได้ว่าจะวัดค่าไหนได้ และที่ความถี่ต่างๆด้วย เพราะฉะนั้นจึงนำมาศึกษาและเขียนโปรแกรมพัฒนาต่อในวันต่อต่อไป

วันพฤหัสบดี, สิงหาคม 09, 2550

Foundation LabVIEW

LabVIEW ย่อมาจาก (Laboratory Virtual Instrument Engineering Workbench) เป็นSoftware ที่พัฒนาขึ้นโดย บริษัท National Instruments หรือ NI โดย LabVIEW จัดเป็นSoftware ประเภทภาษารูปภาพ (Graphical Programming Language) คือจะใช้บล็อกฟังก์ชันซึ่งแทนด้วยรูปไอคอน (Icon) แทนการเขียนด้วยตัวอักษร (Text-based Program) และใช้เส้นเชื่อมต่อระหว่างบล็อกฟังก์ชันแทนการไหลของข้อมูลระหว่างโปรแกรมย่อย คล้ายกับการเขียนFlow chart ของโปรแกรมแต่ไม่เหมือนกับการเขียนโปรแกรมด้วยภาษา (Complier) อื่นๆ เช่นC, Pascal ซึ่งเป็นการเขียนลักษณะ Text mode โดยส่วนมากต้องคำนึงถึงชนิดของข้อมูลที่รับส่งระหว่างโปรแกรมย่อยๆ เช่น real, Integer เป็นต้น การเขียนโปรแกรมด้วย LabVIEW สามารถลดเวลาในการพัฒนาโปรแกรมลงได้อย่างมากเมื่อเทียบกับการเขียนโปรแกรมด้วยภาษาอื่นที่ใช้ตัวอักษร สิ่งที่ทำให้โปรแกรม LabVIEW แตกต่างจาก Software อื่นก็คือ ความสามารถในการใช้งานด้าน งานวัด และการควบคุมอัตโนมัติ โดยมีเครื่องมือ (Tools) ต่างๆ ที่สนับสนุนการใช้งานด้านนี้ไว้อย่างมากมาย และให้ผลลัพธ์ออกมาในรูปแบบของเครื่องมือเสมือนจริง (Virtual Instrument หรือ VI)

LabVIEW ประกอบด้วย 3 ส่วนที่สำคัญ คือ

  • Front Panel
  • Block Diagram
  • Palettes มีส่วนประกอบย่อยอีก 3 ส่วนคือ Tools Palette, Control Palette และ Functions Palette

Front Panel

โปรแกรม VI ที่สร้างโดย LabVIEW จะมีส่วนที่ใช้ติดต่อกับผู้ใช้งาน (User Interface) และ ถูกเรียกว่า “Front Panel” ซึ่งประกอบไปด้วย ส่วนรับคำสั่งควบคุม เช่น การป้อนข้อมูล, ปุ่มควบคุม, สวิตช์ควบคุม และส่วนแสดงผลข้อมูล เช่น แสดงผลด้วยตัวเลข, มิเตอร์, บาร์สเกล และกราฟ เป็นต้น ส่วนต่างๆเหล่านี้สามารถเลือกได้จากรูปไอคอนใน Control Palette แล้วนำมาวางประกอบกันที่ Front Panel ตามที่ผู้ออกแบบต้องการ

Block Diagram

การสร้างโปรแกรม VI บน LabVIEW กระทำได้โดยการสร้าง Block diagram ซึ่งประกอบไปด้วยรูปไอคอนของบล็อกฟังก์ชันต่างๆ ที่ใช้แทนโปรแกรมย่อยโดยไม่ต้องกังวลเรื่องSyntax ของภาษา ผู้ใช้สามารถเลือกบล็อกฟังก์ชันต่างๆ ได้จาก Function Palette มาวางและเชื่อมโยงบล็อกต่างๆ เข้าด้วยกัน เพื่อระบุว่ามีการส่งข้อมูลจากบล็อกใดไปยังบล็อกใด


Palette
Palette ของ LabVIEW เป็นเครื่องมือที่ใช้สำหรับการสร้างและแก้ไขบน Front Panel และ
Block Diagram ซึ่งมีด้วยกัน 3 ส่วนคือ

  1. Tool Palette เป็นเครื่องที่ใช้ได้ทั้งใน Front Panel และ Block Diagram เมื่อเราเลือกใช้ Tool ไอคอนของ Mouse ก็จะเปลี่ยนไปตาม Tool ที่เราเลือกและใช้ Tool นั้นในการปรับแต่ง Front Panel และ Block Diagram

  2. Control Palette เป็นเครื่องที่ใช้ได้ใน Front Panel เท่านั้น เราสามารถเรียกใช้ได้โดยการคลิ๊กขวาที่ Mouse บน Workspace ของ Front Panel นั้น

  3. Function Palette เป็นเครื่องที่ใช้ได้ใน Block Diagram เท่านั้น เราเรียกใช้ก็เหมือนกับการเรียกใช้ Control Palette คือ การคลิ๊กขวาที่ Mouse บน Workspaceของ Block Diagram นั้น

วันอาทิตย์, สิงหาคม 05, 2550

Changing Settings During Measurement Test conditions can now come closer to a component's operating conditions


HIOKI "9593-01 RS-232C INTERFACE"

HIOKI "9593-01 RS-232C INTERFACE" for the 3532-50 and 3522-50 LCR HiTESTERs.







  • Measurement Ranges : All parameter ranges are determined by the Z range. 100 mΩ, 1 Ω, 10 Ω, 100 Ω, 1 kΩ, 10 kΩ, 100 kΩ, 1 MΩ, 10 MΩ, 100 MΩ

  • Measurement frequency :
    • [ 3522-50 ] : DC, 1 mHz to 100 kHz (± 0.005%) Up to 10 Hz (1 mHz steps); 10 Hz to 100 Hz(10 mHz); 100 Hz to 1 kHz (100 mHz); 1 k Hz to 10 kHz (1 Hz); 10 kHz to 100 kHz (10 Hz)
    • [ 3532-50 ] : 42 Hz to 5 MHz (± 0.005%) Up to 1 kHz (0.1 Hz steps); 1 kHz to 10 kHz
      (1 Hz); 10 kHz to 100 kHz (10 Hz); 100 kHz to 1 MHz (100 Hz); 1MHz to 5 MHz (1 kHz)

  • Measurement levels :
    • [ Voltage and constant voltage ] 10 mV to 5 V rms (DC to 1 MHz) 50 mV to 1 V rms (1 MHz to 5 MHz) Maximum short-circuit current 100 mA rms 1 mV step
    • [ Constant current ] 10 μA to 100 mA rms (DC to 1 MHz) 50 μA to 20 mA rms (1 MHz to 5 MHz) Maximum voltage 5 V rms 10 μA rms steps

  • Dimensions and mass :
    • 3522-50 : 313W 125H 290D mm; 4.5 kg approx. (12.32”W 4.92”H 11.41”D ; 159 oz. approx.)
    • 3532-50 : 352W 124H 323D mm; 6.5 kg approx. (13.86”W 4.88”H 12.72”D ; 229.68 oz. approx.)
  • Conforming standards :
    • EMC
      EN61326-1:1997+A1:1998
      EN61000-3-2:1995+A1:1998+A2:1998
      EN61000-3-3:1995
    • Safety
      EN61010-1:1993+A2:1995
    • Power supply ;
      Pollution degree 2 Overvoltage Category II
      (anticipated transient overvoltage 2500 V)
    • Test terminals ;
      Pollution degree 2 Overvoltage Category I
      (anticipated transient overvoltage 330 V)



Overall Project + Progress

ภาพรวมตัวโปรเจค คือ เขียนโปรแกรม labview ให้สามารถคุย โต้ตอบ รับข้อมูลจากเครื่องHioki 9593-01 RS-232C ได้ เเล้วทำให้การทำงานของเครื่องทำงานเป็นแบบต่อเนื่องและแสดงผลในรูปแบบของเอ็กเซลส์



ส่วนกลุ่มของข้าพเจ้า ได้รับผิดชอบส่วนที่ รับข้อมูลจากlabview และให้แสดงผลในรูปแบบของเอ็กเซลส์



วันที่ 26 กรกฎาคมได้ไปที่ บริษัท Industrial Electrical เป็นครั้งเเรก ได้เตรียม สาย usb ที่แปลงเป็น seril port ไป เเล้วได้นำไปต่อกะเครื่อง HIOKI 9593-01 RS-232C ได้ทดลองการคุยกับเครื่องโดยใช้โปรแกรม Hyper Terminal ผ่าน seril port ซึ่งสามารถเขียนคำสั่งแล้วเครื่องก็ตอบกลับมาต่อมา พี่ที่ปรึกษาให้ทดลองคุยกับเครื่องผ่านโปรแกรม lab view ซึ่งข้าพเจ้าได้ลองใช้ตังอย่างโปรแกรมที่มากับโปรแกรมแต่ไม่สามารถคุยกับเครื่องได้ และได้กลับมาศึกษาต่อและคาดว่าจะกลับไปที่บริษัทในอาทิตย์ถัดไป


ตอนนี้ ได้ศึกษา ข้อมูล คู่มือ วิธีใช้ ของเครื่อง นี้แล้ว มีเป็น ไฟล์ pdf แล้วหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ท เกี่ยวกับ เครื่องนี้ และศึกษา ลองเขียนโปรแกรมดู



project : name : id

ทำโปรเจค Labview ที่ Industrial Electrical.co.,ltd
















นส. ชลลดา เหรียญอร่าม 4810611097
นาย ธนกร พรประยุทธ์ 4810610925